การต่อผืนผ้าใบอุตสาหกรรมมีวิธีที่แตกต่างกันหลากหลายวิธี เช่น การติดกาว, การเย็บจักร, การเชื่อมด้วยสารเคมี และ การเชื่อมด้วยความร้อน
ไม่ว่าคุณจะมีโครงการทำกันสาด ป้ายโฆษณา ผ้าใบกันน้ำรถบรรทุก ผ้าคลุมสระว่ายน้ำ บ้านลม เต็นท์ ผ้าใบแรงดึงสูง
เครื่องมือเชื่อมผ้าใบจาก BAK จะให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ สวยงาม และแข็งแรง
- Inflatable Materials (ผ้าใบแรงดึงสูง)
- PVC Coated Materials (ผ้าใบเคลือบ PVC, ผ้าใบคูนิล่อน)
- Tarpaulin Materials (ผ้าใบกันน้ำ)
- Tent Materials (ผ้าใบเต็นท์)
- Cover Materials (ผ้าใบคลุมรถบรรทุก)
- Advertising Materials (ผ้าใบโฆษณา)
- Coated Fabric (ผ้าใบเคลือบผิว)
HOT AIR VS GLUE
ทำไมการเชื่อมด้วยลมร้อนจึงดีกว่าการติดกาว
การใช้ความร้อนเชื่อมแผ่นพลาสติกให้ติดเป็นเนื้อเดียวกัน ความแข็งแรงของรอยเชื่อมจะคงอยู่ตลอดไป ต่างกันกับกาวที่เมื่อกาวหมดสภาพก็ไม่สามารถยึดเกาะพลาสติกให้ติดกันได้อีก อย่างไรก็ตามเราไม่ได้บอกว่าการติดกาวจะไม่ดีไปสักทีเดียว เพราะถ้าวัสดุทั้ง 2 แผ่นใช้สารเคลือบหน้าคนละชนิด กรณีนี้ก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้กาว
ลมร้อนใช้เชื่อมพลาสติกชนิดใดได้บ้าง
ผ้าเคลือบด้วยสารเทอร์โมพลาสติก เช่น PVC,PE,PU,TPO เป็นต้น พวกนี้จะสามารถเชื่อมด้วยความร้อนได้ทั้งสิ้น การเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกันได้ต้องเป็นพลาสติกชนิดเดียวกันเท่านั้น (มีผ้าเคลือบบางชนิดที่เป็นเทอร์โมเซตติ้งที่ไม่สามารถเชื่อมได้ แต่ก็จะพบเห็นน้อยมากๆในท้องตลาด)
หลักการทำงานของเครื่องเชื่อม
หลักการทำงานคือการปล่อยความร้อนผ่านหัวนอซเซิลที่สอดคั่นกลางระหว่างแผ่น 2 แผ่น และล้อลูกกลิ้งที่วิ่งอยู่บนผืนผ้า ความร้อนทำให้พลาสติกหลอมละลาย และแรงกดจากน้ำหนักเครื่องและเหล็กถ่วงจะอัดช่วยให้แผ่นติดดียิ่งขึ้น เครื่องเดินอัตโนมัติเป็นแนวต้องคุณก็จะได้ตะเข็บที่มีความกว้างสม่ำเสมอไปจนตลอดแนว
ข้อดีของการเชื่อม
เมื่อเทียบกับการติดกาวโอกาสการเกิดข้อผิดพลาดด้วย Humam Error จะปรากฎน้อยกว่ามากๆ ในการเชื่อมด้วยลมร้อน และในแง่ของความคงทน การบอนด์ติดด้วยลมร้อนจนแผ่นกลายเป็นเนื้อเดียวกันจะไม่มีวันหลุด ทำให้มีความน่าเชื่อถือกว่ามาก ผู้ประกอบการสามารถรับประกันการเชื่อมโดยลมร้อนได้ และสามารถลดต้นทุนวัสดุสิ้นเปลืองเช่นกาวได้อีกด้วย